เมล็ดตะแบก 1000เมล็ด เมล็ดคุณภาพพร้อมวิธีเพาะ
เมล็ดตะแบก 1000เมล็ด เมล็ดคุณภาพพร้อมวิธีเพาะ
ตะแบกเป็นไม้ต้น ผลัดใบ สูง 15-30 เมตร โคนต้นเป็นพูพอน เปลือกเรียบเป็นมัน สีเทาหรือเทาอ่อน มีรอยแผลเป็นดวงตลอดทั้งต้น
ใบ : ใบเดี่ยว ออกตรงข้าม รูปใบหอก กว้าง 5-8 เซนติเมตร ยาว 12-20 เซนติเมตร ปลายมน มีติ่งแหลมเล็กโคนมน ขอบใบม้วนขึ้น ใบอ่อนสีออกแดง
ดอก : สีม่วงอมชมพูแล้วเปลี่ยนเป็นสีขาว ออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง ดอกตูม รูปทรงคล้ายลูกข่าง มีจุกสั้นๆอยู่ที่ปลายยอด
กลีบเลี้ยงมีสันนูนพาดตามยาว กลีบดอก 6 กลีบ โคนคอดเป็นก้านสั้นๆ เมื่อบานเส้นผ่าศูนย์กลาง 3-3.6 เซนติเมตร เกสรตัวผู้จำนวนมาก
ผล : รูปไข่ กว้าง 0.8-1 เซนติเมตร ยาว 1.3-1.7 เซนติเมตร เมื่อแก่แตกแตกออกเป็น 6 แฉก ถ้วยกลีบเลี้ยงจะหุ้มโคนของผลเช่นเดียวกับอินทนิลน้ำและอินทนิลบก ผลมีขนาดเล็ก ลักษณะของผลเป็นรูปไข่ ยาวประมาณ 0.8-1 เซนติเมตร ผลแก่ เป็นสีน้ำตาล แข็ง เมื่อแก่จะแตก ภายในมีเมล็ดจำนวนมาก มีปีก เมล็ดเป็นสีน้ำตาลเข้ม ผลตะแบกจะเริ่มแก่ในช่วงประมาณเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคม เมล็ดจะร่วงหล่นเมื่อเปลือกผลแตกและอ้าขอนดอก เป็นเนื้อไม้ที่ได้จากต้นตะแบกหรือต้นพิกุลที่มีราลง เนื้อไม้จะมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลเข้มประขาว มองเห็นเป็นจุดสีขาวกระจายทั่วไป ภายในผุเป็นโพรงเล็ก ๆ และมีกลิ่นหอม รสจืด ขอนดอกอาจจะเนื้อไม้ที่ได้จากต้นตะแบกหรือต้นพิกุล ก็ได้ที่มีอายุมาก ๆ ยอดหักเป็นโพรง มักมีเชื้อราเข้าไปเจริญในเนื้อไม้และไม้ยืนต้นตาย เนื้อไม้จึงเหมือนไม้ผุ
ประโยชน์
1. ไม้ตะแบกมีทรงพุ่มใหญ่กว้าง ทรงพุ่มหนา ทำให้เป็นร่มเงาได้ดี นอกจากนั้น ดอกออกเป็นช่อขนาดใหญ่ ดอกมีสีม่วงหรือขาว เมื่อดอกบานจะเป็นช่อใหญ่สวยงาม จึงนิยมปลูกเป็นไม้ให้ร่มเงา และเพื่อประดับดอก ซึ่งพบเห็นได้ตามสวนสาธารณหรือข้างถนนหนทาง
2. เนื้อไม้ตะแบกมีสีน้ำตาลอมเทา เนื้อไม้แข็งแรง ไม่มีเสี้ยน แผ่นไม้ไม่แตกเป็นร่อง นิยมแปรรูปเป็นไม้ก่อสร้างต่างๆ อาทิ แผ่นไม้ปูพื้น ไม้ฝ้า ไม้วงกบ รวมถึงแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ในครัวเรือน อาทิ โต๊ะ เตียง กล่องไม้ ด้ามมีด ด้ามปืน เป็นต้น
3. ท่อนไม้ตะแบกใช้เผาถ่าน ให้ก้อนถ่านแข็ง ถ่านให้ความร้อนสูง รวมถึงกิ่งก้านใช้เป็นเชื้อเพลิงหุงหาอาหารได้เป็นอย่างดี
4. ต้นตะแบกเป็นไม้มงคล เพราะคนไทยโบราณเชื่อว่า การปลูกตะแบกจะช่วยค้ำชูคนในครอบครัวให้ร่มเย็นเป็นสุข ฐานะร่ำรวย มั่นคง ดั่งคำเรียกที่ว่า ตะแบก หมายถึง การแบกรับไว้ไม่ให้ตกต่ำ [6]
5. ขอนดอก เป็นชื่อเรียกแก่ไม้ตะแบกที่มีลักษณะผุผัง มีสีน้ำตาลอมดำ ประขาว มีโพรงอากาศ มีกลิ่นหอม คล้ายกับแก่นกฤษณา เกิดเฉพาะต้นตะแบกที่มีอายุมาก เนื่องจากมีราบางชนิดเข้าไปเติบโตในแก่น แก่นบริเวณนี้ นิยมใช้ทำเป็นยาหรือใช้สกัดน้ำหอม